
พระสีวลี เนื้อผงพรายกุมารทาบรอน หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ พร้อมบัตรรับรอง ในงานประกวดพระเครื่องหลวงปู่ทิม ชุดปี 15 ณ หอประชุมโรงเรียนวัดไผ่ล้อม อ.บ้านค่าย จ. ระยอง ในวันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2562
พระสีวลีปางอุ้มบาตร ผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ จ.ระยอง ตามคำกล่าวแต่โบราณว่า ใครมีไว้บูชา จะทำกิจการใดก็จะมีแต่รุ่งเรืองเจริญก้าวหน้า โชคลาภไหลมาเทมา อยู่ที่ไหนก็มีแต่คนรักใคร่เมตตา ไม่อดไม่อยาก ไม่ยากจน ขัดสนไม่เป็น
พระสีวลีปางอุ้มบาตร ผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม หายากกว่าพระพิมพ์อื่น เพราะด้วยรูปร่างลักษณะยาว จึงทำให้พระแตกหัก บิ่นได้ง่าย จึงทำให้มีน้อย พบเจอองค์สวยสมบูรณ์ค่อนข้างยากมาก.
คาถาบูชาพระสีวลี :
พุทธัง อาราธะนานัง ธัมมัง อาราธะนานัง สังฆัง อาราธะนานัง
นะชาลิติสีวลี จะ มะหาเถโร ทะสะปูชิโต โส ระโห ปะจะยาเทนัง มะหาราภัง ภะเวโหตุ เม ฯ
ประวัติการสร้างพระเนื้อผงพรายกุมาร
พระเนื้อผงพรายกุมาร เป็นพระผงที่สุดยอดเรื่องความศักดิ์สิทธิ์เข้มขลังพลังพุทธานุภาพ พุทธคุณครอบคลุมทุกด้าน "ผงพรายกุมาร" เป็นวิชาอาถรรพ์ที่หลวงปู่ทิมได้พบในตำราเก่าของหลวงปู่สังข์เฒ่า อดีตเจ้าอาวาสและเป็นสมภารองค์แรกที่ได้ก่อตั้งวัดละหารไร่ หลวงปู่สังข์เต่ามีศักด์เป็น "ทวด" ของหลวงปู่ทิมอีกด้วย
หลวงปู่สังข์เฒ่า ท่านเป็นพระที่มีอาคมแก่กล้ามาก มีวิชาสาลิกาหลงรัง ถ้าท่านถ่มน้ำลายลงพื้นเมื่อไหร่ พื้นนั้นจะแตกทันที หลวงปู่ทิมท่านได้ศึกษาตำราการสร้าง "ผงพรายกุมาร" ด้วยความสนใจเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อประมาณกลางปี 2515 คณะกรรมการวัดละหารไร่ โดยมี นายสาย แก้วสว่าง ซึ่งเป็นไวยาวัจกร ได้ประชุมหารือกันเรื่องจะสร้างพระเครื่อง เพื่อเป็นการสมนาคุณให้แก่ชาวบ้านและสาธุชนทั่วไป ผู้ที่มีจิตศรัทธาบริจาคเงินร่วมทำบุญกับวัดละหารไร่ ซึ่งในครั้งนั้นหลวงปู่ทิมได้กล่าว ว่า "หากได้ผงพรายกุมารมหาภูติ ผสมใส่ลงไปด้วย พระเครื่องที่สร้างนี้จะมีความศักดิ์สิทธิ์มากขึ้น เพราะอานุภาพแห่งผงพรายกุมารมหาภูติแฝงอยู่ คอยช่วยเหลือเอื้ออำนวยพร"
เมื่อหลวงปู่ทิมมีความต้องการที่จะทำผงพรายกุมารมหาภูติ เพื่อนำมาเป็นมวลสารสำคัญในการสร้างพระเครื่องในครั้งนั้น "หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ" ผู้ที่มีวิชาอาคมและสมาธิกล้าแข็งได้ขันอาสาในการไปนำ "กะโหลกพรายกุมาร" ซึ่งเป็นวัตถุอาถรรพ์สำคัญยิ่งจากหญิงตายทั้งกลม (หญิงชาวบ้านท้องแก่ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ซึ่งทางญาติได้นำมาฝังไว้ที่ป่าช้าวัดละหารไร่) ในการเข้าไปนำกระโหลกพรายกุมารออกมานั้น หมอกุหลาบ ได้เจออิทธิ์ฤทธิ์จากนายป่าช้า แม่นางพราย และพรายกุมาร แต่ด้วยมูลเหตุแห่งวัตถุประสงค์เพื่อการสร้างบุญกุศลในพระพุทธศาสนา และบารมีของหลวงปู่ทิม ทำให้นายป่าช้า แม่นางพราย และพรายกุมาร ยินยอมและเต็มใจในกุศลผลบุญที่ตนเองจะได้รับ , หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ จึงกระทำการในครั้งนี้ได้อย่างสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี.
หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ กล่าวย้ำว่าการสร้างผงพรายกุมารมหาภูตินั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อได้กระโหลกพรายกุมารมาแล้ว ใส่ห่อผ้าเก็บไว้หลังพระประธานในพระอุโบสถหลังเก่า ประมาณสามถึงสี่เดือนจนแห้งสนิทไม่มีกลิ่น จึงนำมาโขลกตำให้ละเอียดแล้วผสมกับผงวิเศษสำคัญต่างๆ ที่หลวงปู่ทิมมอบให้จบครบทั้งหมด ผสมน้ำแช่เกสรบัว ทั้งปั้นเป็นแห่งขนาดใหญ่ แล้วตากแดดจนแห้ง รอฤกษ์งามยามดี ตามที่หลวงปู่ทิมได้กำหนดไว้ จึงทำแท่งปั้นมาเขียนอักขระยันต์ต่างๆ บนกระดานชนวน กระทำพิธีในพระอุโบสถหลังเก่า ท่ามกลางการเจริญพระพุทธมนต์ของพระสงฆ์ 9 รูป โดยหลวงปู่ทิม เป็นประธานสงฆ์ หลังจากเสร็จพิธีได้ผงพรายกุมารมหาภูติอันบริสุทธิ์เรียบร้อยแล้ว จึงนำไปเก็บรวบรวมไว้ในกุฏิหลวงปู่ทิม เมื่อจะสร้างพระเครื่องก็จะนำมาผสมผงกดเป็นพิมพ์พระ